Planning
Outline-text
ชื่อหัวข้อที่จะนำเสนอ
- Symmetric - Key Cryptography Vs Asymmetric - Key Cryptography
โครงสร้างของเนื้อหา
- จำนวนหัวข้อทั้งหมดที่จะนำเสนอ
- 1 หัวข้อ
- แต่ละหัวข้อจะนำเสนออะไร
- เป็นการเปรียบเทียบให้เห็นความแตกต่างระหว่าง Symmetric - Key Cryptography และ Asymmetric - Key Cryptography
- ด้านการใช้คีย์
- Secure Communication Channels เปรียบเทียบการ Distribute key ว่ามีความแตกต่างกันยังไง
- ลักษณะการใช้งาน
- การใช้ทรัพยากร
- ความยาวของคีย์
- ขนาดของข้อความที่เข้ารหัส
- เป็นการเปรียบเทียบให้เห็นความแตกต่างระหว่าง Symmetric - Key Cryptography และ Asymmetric - Key Cryptography
ประเด็นสำคัญของบทความ
- ความแตกต่างระหว่าง Symmetric - Key Cryptography Vs Asymmetric - Key Cryptography ในด้านต่าง ๆ
สิ่งที่ผู้อ่านจะได้รับจากบทความ
- เข้าใจความแตกต่างระหว่าง Symmetric - Key Cryptography Vs Asymmetric - Key Cryptography
Outline-graphic
รูปแบบของกราฟฟิค + โครงสร้าง
คำถามที่รบกวนให้ Reviewer ช่วยตอบค่ะ
1. ต้องการรู้ประเด็นไหนเพิ่มเติมไหม เพราะอะไร
2. คิดว่าเรียงลำดับการนำเสนอได้ดีรึยัง ถ้าไม่ดี มีไอเดียอย่างไร
3. มีประเด็นไหนควรตัดทิ้งไหม เพราะอะไร
Content text + graphic
จากบทความที่ผ่านมา เราได้มีการนำเสนอเกี่ยวกับ Symmetric - Key Cryptography และ Asymmetric - Key Cryptography (Public-Key-Cryptography) กันไปแล้ว มาในบทความนี้เราจะเปรียบเทียบให้เห็นว่า การเข้ารหัสทั้ง 2 แบบมีความแตกต่างกันอย่างไรบ้าง
ความแตกต่างระหว่าง Symmetric กับ Asymmetric ที่เห็นได้ชัดเจนที่สุด ก็คือเรื่องของคีย์ที่ใช้งานและความต้องการช่องทางการสื่อสารที่ปลอดภัย (Secure communication channel) เนื่องจาก Symmetric - Key เป็นการเข้ารหัสข้อมูลที่ใช้คีย์ตัวเดียวกันในการเข้าและถอดรหัส ทำให้เราจำเป็นต้องหาช่องทางที่ปลอดภัยในการส่งคีย์ออกไปให้กับคู่สนทนาของเรา เพราะหากมีผู้ที่ไม่หวังดีได้คีย์ของเราไปจะสามารถถอดรหัสข้อมูลของเราได้ทั้งหมด
ในขณะที่ Asymmetric - Key ใช้คีย์ 2 ตัวในการเข้าและถอดรหัสข้อมูล ทำให้ไม่จำเป็นต้องคำนึงถึงการหาช่องทางที่ปลอดภัยในการส่งคีย์ออกไป เนื่องจากเราไม่ได้ส่งคีย์ส่วนตัว (Private Key) ที่สำคัญออกไป แต่เราส่งเพียงคีย์สาธารณะ (Public Key) ที่ไม่จำเป็นต้องเก็บเป็นความลับ บุคคลอื่น ๆ สามารถมีคีย์สาธารณะของเราได้ แต่คนที่จะสามารถถอดรหัสข้อมูลได้มีเพียงเราที่มีคีย์ส่วนตัวเท่านั้น
ส่วนในด้านอื่น ๆ Symmetric - Key นั้นมีความยาวคีย์ที่น้อย เช่น 128 บิตหรือ 256 บิต ขึ้นอยู่กับความต้องการด้านความปลอดภัย เหมาะในการใช้ส่งข้อมูลขนาดใหญ่ และใช้ทรัพยากรน้อย ตรงข้ามกับ Asymmetric - Key ที่มีความยาวคีย์สูงมาก เช่น RSA ที่มีการแนะนำให้ใช้คีย์ขนาด 2048 บิต เป็นต้น เหมาะในการใช้ส่งข้อมูลขนาดเล็ก และใช้ทรัพยากรสูง
ความแตกต่าง | Symmetric - Key | Asymmetric - Key |
---|---|---|
จำนวนคีย์ที่ใช้ | ใช้คีย์ 1 ตัวในการเข้าและถอดรหัส | ใช้คีย์ 2 ตัวในการเข้ารหัสและถอดรหัสคือคีย์สาธารณะ (Public Key) และคีย์ส่วนตัว (Private Key) |
ช่องทางการสื่อสารที่ปลอดภัย | จำเป็นต้องมีช่องทางที่ปลอดภัยในการส่งคีย์ออกไป เนื่องจากใช้คีย์ตัวเดียวในการเข้าและถอดรหัส | ไม่จำเป็นต้องมีช่องทางที่ปลอดภัยในการส่งคีย์ออกไป เนื่องจากเรามีการส่งคีย์ออกไปเฉพาะคีย์สาธารณะ (Public Key) ที่ไม่จำเป็นต้องเก็บเป็นความลับ |
ความยาวคีย์ | ความยาวของคีย์ที่ใช้บ่อยคือ 128 หรือ 256 บิต ขึ้นอยู่กับความต้องการด้านความปลอดภัย | ความยาวของคีย์จะสูงมาก เช่น ขนาดคีย์ RSA ที่แนะนำคือ 2048 บิตหรือสูงกว่า |
ลักษณะการใช้งาน | ใช้ในการส่งข้อมูลขนาดใหญ่ | ใช้ในการส่งข้อมูลขนาดเล็ก |
การใช้ทรัพยากร | ใช้ทรัพยากรน้อย | ใช้ทรัพยากรมาก |
ตัวอย่าง | RC4, AES, DES | RSA, Diffie-Hellman, ECC algorithms |