Planning
Text
ชื่อหัวข้อที่จะนำเสนอ
- ตัวอย่าง Hash Function ที่เป็นที่รู้จัก
โครงสร้างของเนื้อหา
- จำนวนหัวข้อทั้งหมดที่จะนำเสนอ
- 5 หัวข้อ
- แต่ละหัวข้อจะนำเสนออะไร
- หัวข้อที่ 1 : เกริ่นนำว่า Hash Function มีหลายตัว เช่น … แต่ในบทความนี้จะนำเสนอตัวที่เป็นที่นิยม คือ…
- หัวข้อที่ 2 : ตัวอย่าง ที่ 1 MD5 ผู้ออกแบบ, สามารถสร้าง Hash Value ได้กี่บิต และจุดเด่นอื่น ๆ เล็กน้อย
- หัวข้อที่ 3 : ตัวอย่าง ที่ 2 SHA ผู้ออกแบบ, สามารถสร้าง Hash Value ได้กี่บิต และจุดเด่นอื่น ๆ เล็กน้อย
- หัวข้อที่ 4 : ตัวอย่าง ที่ 3 SHA -2 ผู้ออกแบบ, สามารถสร้าง Hash Value ได้กี่บิต และจุดเด่นอื่น ๆเล็กน้อย
- หัวข้อที่ 5 : สรุปว่ามาตราฐาน แต่ละตัวแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับอะไร
- Reference : ข้อมูลจากสไลด์ที่พี่ต้าสอน Thursday Community Calls : ทำความเข้าใจ Hash Function และการใช้งาน - YouTube ส่วนที่เอา 3 ตัวที่เป็นที่นิยม ดูมาจากหลาย ๆ เว็บ ว่าเค้าพูดถึงตัวไหนบ้าง
Graphic
เสนอไอเดียสำหรับออกแบบกราฟฟิค
รูปแบบของกราฟฟิคที่จะนำเสนอ
โครงสร้างของกราฟฟิค
- จำนวน Page ที่จะนำเสนอ
- 5 รูป
- แต่ละ Page เป็นรูปแบบอย่างไร
- รูปที่ 1 : Cover – “ตัวอย่าง Hash Function ที่เป็นที่รู้จัก”
- รูปที่ 2 : Overview – “Hash Function คืออะไร ตัวอย่างการใช้งาน เช่น ใช้ใน Bitcoin”
- รูปที่ 3 : ตัวอย่างที่เป็นที่รู้จัก - MD5
- รูปที่ 4 : ตัวอย่างที่เป็นที่รู้จัก - SHA
- รูปที่ 5 : Ending
คำถามที่รบกวนให้ Reviewer ช่วยตอบค่ะ
1. ต้องการรู้ประเด็นไหนเพิ่มเติมไหม เพราะอะไร
2. คิดว่าเรียงลำดับการนำเสนอได้ดีรึยัง ถ้าไม่ดี มีไอเดียอย่างไร
3. มีประเด็นไหนควรตัดทิ้งไหม เพราะอะไร
Content
ตัวอย่าง Hash Function ที่เป็นที่รู้จัก
ถ้าหากมีการติดตามข้อมูลในหลาย ๆ ตอนที่ผ่านจะเห็นว่าเรามีการพูดถึง Hash Function ทั้งในด้านความหมายและคุณสมบัติกันไป หลาย ๆ คนอาจจะเข้าใจว่า Hash Function มีแค่ฟังก์ชันเดียวหรือเปล่า หรือหลาย ๆ คนอาจจะเคยได้ยินชื่อ Hash Function ที่ Bitcoin ใช้มาบ้าง ซึ่งจริง ๆ แล้ว Hash Function ที่มีการใช้งานกันอยู่ในปัจจุบันนั้น มีอยู่หลายชนิด เช่น RIPEMD160 (RIPE Message Digest), SM3 (Shang Mi) 256-bit output, Whirlpool 512-bit output, SHA-3 เป็นต้น แต่ในวันนี้เราจะยกตัวอย่าง Hash Function ที่เป็นที่รู้จักและมีการใช้อย่างแพร่หลาย 2 แบบ ได้แก่
-
MD5 (Message-Digest Algorithm 5) ได้รับการออกแบบโดย Ron Rivest สามารถสร้างค่าแฮช (Hash Value) ได้ 128 bit เป็น Hash Algorithm ที่ถูกใช้ในการจัดเก็บรหัสผ่าน ตัวอย่างเช่น ระบบ Linux บางระบบที่ใช้ MD5 เพื่อบันทึกรหัสผ่าน ภายหลัง MD5 มีการใช้งานน้อยลง เนื่องจากปัญหาด้านความปลอดภัย
-
SHA (Secure Hash Algorithms) คือ กลุ่มฟังก์ชันแฮชที่เผยแพร่โดย National Institute of Standards and Technology (NIST) เป็น U.S. Federal Information Processing Standard (FIPS) ประกอบด้วย
- SHA-0 คือ ฟังก์ชันแฮชตัวแรกในตระกูล SHA ที่สามารถสร้างค่าแฮช (Hash Value) ได้ 160 บิต ถูกเผยแพร่ในปี 1993 ก่อนจะพบข้อบกพร่องหลายประการและถูกถอดออกไป
- SHA-1 คือ ฟังก์ชันแฮชที่ถูกปรับปรุงมาจาก SHA-0 เผยแพร่ในปี 1995 เป็นฟังก์ชันที่สหรัฐอเมริกาใช้กับ Digital Signature Scheme หลังจากปี 2010 SHA-1 ถูกตรวจพบข้อบกพร่องและไม่ได้รับการอนุมัติสำหรับการเข้ารหัสส่วนใหญ่อีกต่อไป
- SHA-2 คือ สร้างขึ้นเพื่อแก้ไขข้อบกพร่องของ SHA-1 ดังนั้นจึงมีโครงสร้างและรายละเอียดที่คล้ายกับ SHA-1 นอกจากนั้นยังมีการเพิ่ม วิธีการแฮชขึ้นมาอีก 3 แบบ คือ SHA-256, SHA-384, SHA-512 เป็นมาตรฐานที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย อย่างเช่น Bitcoin, SOLANA ที่ใช้ SHA-256 เป็นต้น (เราสามารถรู้ขนาด Output ของ SHA ได้จากการดูตัวเลขที่ต่อหลัง เช่น SHA-256 คือ สามารถสร้างค่าแฮชได้ 256 บิต)
- SHA-3 คือ ฟังก์ชันแฮชที่เดิมเรียกว่า Keccak ซึ่งได้รับเลือกในปี 2012 หลังจากการแข่งขันสาธารณะในหมู่นักออกแบบที่ไม่ใช่ NSA รองรับความยาวแฮชเดียวกันกับ SHA-2 แต่โครงสร้างภายในแตกต่างจากตระกูล SHA อื่น ๆ ตัวอย่าง Blockchain ที่ใช้ SHA-3 เช่น Ethereum, TRON เป็นต้น
Hash Function อย่าง Message Digest Algorithm (MD5) หรือ Secure Hash Algorithm เช่น SHA-1, SHA-2, SHA-3 หรือฟังก์ชันแฮชแบบอื่น ๆ จะมีความแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับวิธีการแฮชและขนาดความยาวของ Output (Fixed Length Output) ที่ได้จากกระบวนการแฮช