Planning
Outline-text
ชื่อหัวข้อที่จะนำเสนอ
- EP 1 : บทนำ Bitcoin Whitepaper
โครงสร้างของเนื้อหา
- หัวข้อที่1 : เกริ่นนำ > จาก EP 0 ที่เราได้พูดถึง Whitepaper และได้มีการยกตัวอย่าง Bitcoin Whitepaper ให้ทุกคนรู้จักกันไปแล้วเล็กน้อย มาใน EP 1 นี้เราจะพาทุกคนไปเริ่มอ่าน Bitcoin Whitepaper กันแบบเจาะลึกลงไปให้เห็นถึงรายละเอียดที่ถูกเขียนไว้ข้างในว่ามีความเข้าใจยากง่ายหรือจะน่าสนใจมากแค่ไหนไปดูกันเลย
- หัวข้อที่ 2 : เปิดด้วยคำถาม > ทุกคนเคยคิดไหมว่าทำไมบนโลกนี้ต้องมี Bitcoin ? หรือ Bitcoin แก้ปัญหาอะไร แล้วแก้ได้จริงมั้ย ในบทนำของ Bitcoin Whitepaper จะตอบคำถามนี้ให้กับคุณเอง
ตอบคำถามโดยอธิบายถึงความเป็นมาว่าทำไมถึงมีการสร้าง Bitcoin ขึ้นมา สาเหตุมาจากอะไร - หัวข้อที่ 3 : วัตถุประสงค์ในการสร้าง Bitcoin คืออะไร แล้วทำอย่างไรบ้าง สรุปเป็นข้อๆ
- หัวข้อที่ 4 : หากอยากทราบรายละเอียดที่เจาะลงไปถึงวิธีการที่ Bitcoin นำมาใช้ในการแก้ปัญหา ติดตามต่อใน EP 2 : ธุรกรรม (Transactions) - Experimental / Content Board - Hashpire Community
Q 1 : ปัจจุบันการค้าขายแลกเปลี่ยนผ่านทางอินเทอร์เน็ต มีสถาบันทางการเงินเป็นตัวกลางที่มีเครดิต มีความน่าเชื่อถือในการยืนยันความถูกต้องของธุรกรรมออนไลน์เหล่านี้อยู่แล้ว ทำไมต้องมี Bitcoin เข้ามาอีก ?
Q 2 : ปัญหาอยู่ที่ตัวกลาง แล้ว Bitcoin จะเข้ามาแก้ไขได้ยังไง
ประเด็นสำคัญของบทความ
- บทนำ Bitcoin Whitepaper สิ่งที่ Bitcoin ต้องการทำ
สิ่งที่ผู้อ่านจะได้รับจากบทความ
- เข้าใจความเป็นมาและความต้องการของ Bitcoin ในเบื้องต้นก่อนเจาะลึกเข้าสู่บทต่าง ๆ
Outline-graphic
รูปแบบของกราฟฟิค + โครงสร้าง
คำถามที่รบกวนให้ Reviewer ช่วยตอบค่ะ
1. ต้องการรู้ประเด็นไหนเพิ่มเติมไหม เพราะอะไร
2. คิดว่าเรียงลำดับการนำเสนอได้ดีรึยัง ถ้าไม่ดี มีไอเดียอย่างไร
3. มีประเด็นไหนควรตัดทิ้งไหม เพราะอะไร
Content text + graphic
เนื่องจากในวันที่ 3 มกราคม ถือได้ว่าเป็นวันครบรอบ 14 ปีของ Bitcoin ซึ่งเป็นวันที่ Satoshi Nakamoto ได้สร้าง Block ขึ้นมาเป็นครั้งแรกเมื่อปี 2009 ในชื่อ Genesis Block และถือได้ว่านี้เป็นจุดเริ่มต้นของเครือข่าย Bitcoin
วันนี้ทางเพจ Hashpire จึงถือโอกาสมาแชร์ข้อมูลที่น่าสนใจว่าทำไม Bitcoin จึงถูกสร้างขึ้นมา ?
ทุกคนเคยสงสัยกันไหมว่า Bitcoin ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อแก้ไขปัญหาอะไร แล้วมีประโยชน์กับตัวเราจริงหรือไม่ ? ก่อนที่เราจะไปถึงการสร้าง Bitcoin ต้องขอย้อนไปในปี 2007-2008 ที่มีการเกิดวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ ส่งผลให้เกิดปัญหาสภาพคล่องอย่างรุนแรง ธนาคารขาดทุนอย่างหนักและไม่มีเงินคืนนักลงทุน ทำให้ Satoshi Nakamoto ได้มีแนวคิดในการสร้าง Bitcoin ขึ้นมา ภายใต้ Concept ที่ว่า “เงินเรา เราดูแล (Ownership)”
Bitcoin ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อแก้ไขปัญหาตัวกลางในการทำธุรกรรม ซึ่งหลายคนอาจจะสงสัยว่าปัญหาคืออะไร ในเมื่อการทำธุรกรรมผ่านสถาบันทางการเงินก็สามารถใช้งานได้ปกติและไม่ได้ปัญหาใด ๆ แต่ในความเป็นจริงแล้วหากเราลองศึกษาให้ดี จะเห็นว่าระบบ Centralized ของสถาบันทางการเงินที่จริงแล้วมันมีปัญหา ซึ่งสรุปได้ดังนี้
-
ปัญหาด้านความน่าเชื่อถือ (Trust)
ตัวกลางอย่างสถาบันทางการเงินมีอำนาจในการอนุมัติให้การทำธุรกรรมของเราผ่านหรือไม่ผ่านได้ รวมทั้งยังสามารถย้อนคืนธุรกรรมและดึงเงินคืนจากเราได้แม้ว่าเราจะได้รับเงินไปแล้วก็ตาม ซึ่งระบบนี้จะมีผลเสียต่อผู้ขาย เช่น หากเราส่งสินค้าให้กับผู้ซื้อแล้ว ผู้ซื้อทำการขอยกเลิกการโอนเงินกับสถาบันทางการเงินได้ จะทำให้เราเสียสินค้าและไม่ได้รับเงินอีกด้วย ดังนั้น ความน่าเชื่อถือจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพราะเราต้องเชื่อว่าธนาคารจะไม่ดึงเงินเราคืนหรือยกเลิกการทำธุรกรรมของเรา -
ปัญหาด้านค่าใช้จ่ายและต้นทุนในการทำธุรกรรม
การทำธุรกรรมที่มีตัวกลางอย่างสถาบันทางการเงิน จะต้องมีค่าใช้จ่ายที่เราต้องจ่ายให้กับสถาบันทางการเงินนั้น ๆ และค่าใช้จ่ายนี้ทำให้ผู้ใช้งานไม่สามารถทำธุรกรรมขนาดเล็กได้
อธิบายมาถึงตรงนี้หลายคนอาจจะสงสัยว่าแล้ว Bitcoin จะเข้ามาแก้ไขปัญหาเหล่านี้ให้ดีขึ้นได้อย่างไร
สิ่งที่ Bitcoin ต้องการจะสร้างคือ ระบบเงินสดอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Cash) ที่ใช้ศาสตร์แห่งการเข้ารหัสและระบบ Peer-to-Peer (P2P) แทนที่การใช้ตัวกลางอย่างสถาบันทางการเงิน ซึ่ง Bitcoin ถูกพัฒนาขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์ในการสร้างสกุลเงินที่เป็นอิสระไม่ขึ้นตรงกับตัวกลางใด ๆ ไม่ว่าจะสถาบันทางการเงินหรือแม้แต่รัฐบาล โดยการตัดตัวกลางออกไป ซึ่งการตัดตัวกลางในที่นี้หมายถึงการตัดตัวกลางที่มีอำนาจการตัดสินใจแบบผูกขาดเพียงผู้เดียวออกและเปลี่ยนเป็นให้ทุกคนที่อยู่ในเครือข่าย (Network) เป็นผู้มีอำนาจในการตัดสินใจร่วมกันแทน ซึ่งสามารถแก้ปัญหาได้ดังนี้
- ธุรกรรมที่ถูกยืนยันแล้วจะไม่สามารถถูกย้อนคืนหรือถูกยกเลิกได้
- ไม่มีใครสามารถปิดกั้นการทำธุรกรรมระหว่างคนสองคนได้
- ไม่มีบุคคลใดสามารถทำธุรกรรมแทนเราได้เนื่องจากสิทธิ์ในการทำธุรกรรมอยู่กับเราไม่ใช่ตัวกลาง (สินทรัพย์อยู่บน Blockchain)
- การทำธุรกรรมผ่าน Bitcoin ไม่มีตัวกลางอย่างสถาบันทางการเงิน ดังนั้นจึงสามารถลดค่าใช้จ่ายในส่วนที่เราต้องจ่ายให้ตัวกลางออกไปได้
จากรายละเอียดที่เราได้อธิบายไว้ทั้งหมด จะเห็นได้ว่า Bitcoin ต้องการที่จะเข้ามาแก้ไขการทำธุรกรรมแบบเดิมที่มีสถาบันทางการเงินเป็นตัวกลาง เพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้มากขึ้น แต่การตัดตัวกลางออกนั้นทำให้เกิดปัญหาอีกหลาย ๆ อย่างตามมา หากอยากรู้ว่าปัญหาคืออะไร แล้ว Bitcoin จะมีวิธีแก้อย่างไร
ติดตามต่อได้ใน Series : Bitcoin Whitepaper EP ต่อไป
คำศัพท์ทางเทคนิค (Technical Term)
1.Peer-to-Peer (P2P) : การส่งต่อข้อมูลหากันและกันเป็นเครือข่ายแบบไม่มีตัวกลาง